หุ้นเด่นวันนี้
29 กรกฎาคม 2563 | 09:39
ราคาหุ้น บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC หลังจากเปิดตลาดวันทำการล่าสุด(24ก.ค.63) ราคาหุ้นก็ไหลร่วงลงไปทำจุดต่ำสุดของวันที่ 51 บาท แม้จะฟื้นตัวขึ้นมาปิดตลาดไปได้ที่ บาท ลดลง บาท หรือ -% ปริมาณหุ้นที่ซื้อขายเพิ่มขึ้น % เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ย 5 วันทำการก่อนหน้า
สาเหตุที่ทำให้ราคาหุ้น MTC เป็นเช่นนี้มาจาก ข่าว ‘ธนาคารออมสิน’ ที่ตัดสินใจขอเข้ามาร่วมแข่งขันในธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล โดยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 8–10% พร้อมเปิดทางให้รีไฟแนนซ์กับธนาคารได้ ถือเป็นปัจจัยลบต่อผู้ให้บริการสินเชื่อบุคคล สินเชื่อจำนำทะเบียนและสินเชื่อบัตรเครดิต ทั้ง MTC - SAWAD- AEONTS และ KTC เพราะความกังวลว่าอาจเสียลูกค้าชั้นดีไปให้กับธนาคารออมสิน
บริษัทหลักทรัพย์(บล.)เอเชีย พลัส ประเมินประเด็นนี้เอาไว้อย่างน่าสนใจว่า การเข้ามารุกสินเชื่อส่วนบุคคลของ ธนาคารออมสิน “ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อ MTC มากนัก” เนื่องจากลูกค้าชั้นดีที่จะผ่านเกณฑ์การคัดเลือกของธนาคารออมสินอาจมีไม่มาก เพราะสินเชื่อบุคคลเป็นสินเชื่อที่มีความเสี่ยงสูง หากธนาคารออมสินจะคิดอัตราดอกเบี้ยลูกค้าต่ำกว่าตลาดมาก จะต้องใช้ความระมัดระวังในการคัดเลือกลูกค้ามาก อีกทั้งลูกค้าของ MTC ปัจจุบันเป็นกลุ่มลูกค้าที่เข้าถึงสินเชื่อจากแบงก์ได้ค่อนข้างยาก
ประเด็นความเสี่ยงเศรษฐกิจชะลอตัว ที่จะกดดันความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้า และราคาหุ้นที่สะท้อนมูลค่าพื้นฐานไปแล้ว น่าจะเป็นประเด็นที่น่ากังวลมากกว่าสำหรับ MTC
MTC ดูเหมือนจะได้รับข่าวประเด็นลบอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา ทั้งมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ต่างๆ และล่าสุดคือข่าวการเข้ามาลุยธุรกิจของธนาคารออมสิน แต่จากการสำรวจประมาณการผลประกอบการในไตรมาส 2/63 จากนักวิเคราะห์ ก็พบว่ากำไรสุทธิของ MTC จะยังเติบโตต่อเนื่องได้อยู่
โดยบล.ฟิลลิป ระบุว่า กำไรไตรมาส 2/63 ของ MTC จะอยู่ที่ 1.3 พันล้านบาท โต +24.1% YoY และ +2.3% QoQ จากสินเชื่อที่จะยังเติบโตตามความต้องการเงิน ถึงแม้ว่าผลตอบแทนจากสินเชื่อจะลดลงตามมาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19
โดยสินเชื่อจะเติบโต 4% QoQ ในไตรมาสนี้ เร่งตัวขึ้นจากไตรมาสก่อนที่เติบโต 3.8% QoQ เพราะเป็นช่วงเปิดเทอมและการเริ่มฤดูเพาะปลูก แม้ระดับ NPL น่าจะเพิ่มสูงขึ้นด้วย จากเดิมที่ 1.18% ถึงแม้ว่าจะมีมาตรการช่วยเหลือลูกค้าออกมาแล้วก็ตาม แต่ก็ถือว่าเป็นระดับต่ำเมื่อเทียบกับคู่แข่งด้วยกัน
บล.เคทีบี ระบุว่า ยังคงประมาณการกำไรสุทธิในปี 63 – 64 ไว้ที่ 4.55 พันล้านบาท(+7% YoY) และ 5.4 พันล้านบาท(+10% YoY) ตามลำดับ
โดยปี 63 มองว่าสินเชื่อจะขยายตัวอยู่ที่ 10% YoY ตามสาขาที่เพิ่มขึ้นเป็น 4.7 พันแห่ง (เพิ่มจากปีก่อนที่ 4.1 พันแห่ง) ขณะที่ NPLs ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 1.5% (จากปีก่อนที่ 1%) เพราะสภาพเศรษฐกิจในประเทศที่หดตัว และสุดท้ายคือค่าใช้จ่ายสำรองฯ ที่เพิ่มขึ้นเป็น Credit Cost 150 bps จากความระมัดระวังในการตั้งสำรองฯที่สูงขึ้น โดยคิดเป็น LLR/Loan 3.4% จากปีก่อนที่ 2.8%
ส่วนการเติบโตของกำไรสุทธิปี 64 เป็นผลมาจาก สินเชื่อขยายตัวที่ +9% YoY และ NPLs ที่ 1.3% รวมถึงค่าใช้จ่ายสำรองฯ คิดเป็น credit cost 93 bps
ก่อนหน้านี้ปัญหาของ MTC มักจะเป็นเรื่องราคาหุ้นแพงจนทำให้นักลงทุนไม่กล้าเข้าซื้อเพราะอัพไซด์เหลือน้อย แต่หลังจากที่โดยข่าวร้ายถล่มมานานหลายเดือนตั้งแต่โควิด-19 ระบาด ทำให้ราคาหุ้น MTC ในปัจจุบันปรับลดลงมามากจนอัพไซด์เหลือเพียบ ดังนี้
ข่าวหุ้นอื่นๆที่น่าสนใจ
RECOMMENDED NEWS
Let's block ads! (Why?)
No comments:
Post a Comment