Pages

Thursday, July 2, 2020

ตร.เตรียมแจ้งข้อหาพยานให้การเท็จ คดีชิงตัว "บรรยิน" - ข่าวไทยพีบีเอส

utaksate.blogspot.com

ชุดสืบสวนสอบสวน คดีวางแผนชิงตัว พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ ประชุมร่วมสรุปคดีหลังจากสอบปากคำพยานไปกว่า 20 คน พบบางคนให้การเท็จไม่ตรงกับพยานหลักฐานที่ตำรวจมี และเตรียมแจ้งข้อกล่าวหา

วันนี้ (3 ก.ค.2563) คณะพนักงานสอบสวน และสืบสวนคดีแผนการชิงตัว พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ระหว่างการควบคุมตัวมาให้การที่ศาล ร่วมประชุมสรุปคดีหลังจากที่ได้สอบปากคำพยานในคดีไปกว่า 20 คน และสอบสวนพยาน 3 คนหลักในคดีที่ถูกพาดพิงว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับแผนการครั้งนี้ ประกอบไปด้วย

พ.ต.ท.นุกูล แสงศิริ อดีต สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรเขต 4 จ.นครสวรรค์ ,นายกรณ์ กันเที่ยง ทนายความที่ประกันตัวนายสุธน ทองศิริ หรือ โจ อายุ 42 ปี อดีตผู้ต้องขังที่อยู่ที่ในเรือนจำเดียวกันกับ พ.ต.ท.บรรยิน และนายวรภัทร์ ตั้งภากรณ์ หรือ บอส ลูกชาย พ.ต.ท.บรรยิน โดยทั้ง 3 คน ให้การว่าไม่เกี่ยวข้องกับแผนดังกล่าว

พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม เปิดเผยว่า หลังจากสอบปากคำพยานไปแล้วยังพบว่าพยานบางส่วนให้การขัดแย้งกับพยานหลักฐานที่ตำรวจมีอยู่ ซึ่งอาจเข้าข่ายให้การเท็จกับเจ้าพนักงานและคาดว่าจะต้องมีผู้ถูกแจ้งข้อหาดังกล่าว แต่จะมีจำนวนกี่คนยังไม่ขอเปิดเผย

ส่วนพยานหลักฐานที่ตำรวจมียืนยันว่า เป็นข้อเท็จจริงที่ค่อนข้างชัดเจน การที่พยานบางคนโดยเฉพาะลูกชายของ พ.ต.ท.บรรยิน จะเห็นว่าเป็นแผนการที่ไม่สามารถเป็นไปได้นั้นก็เห็นว่าเป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหาที่ให้การอย่างไรก็ได้ แต่ตำรวจมีหลักฐานที่ค่อนข้างแน่นหนาจึงตั้งคณะทำงานชุดใหญ่มาสอบสวน

ส่วนประเด็นที่ลูกชายของ พ.ต.ท.บรรยิน อ้างว่าไม่รู้จักกับผู้ต้องขังในเรือนจำเดียวกับ พ.ต.ท.บรรยิน ทั้งนายโจ และนายท็อป นั้น พ.ต.อ.เอนก ระบุว่า ต้องไปตรวจสอบความเชื่อมโยงกันก่อน รวมทั้งข้อมูลการติดต่อสื่อสาร แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด

อย่างไรก็ตาม หากการประชุมสรุปภาพรวมคดีในวันนี้แล้วพบว่า มีพยานคนใดที่ให้การเท็จกับเจ้าพนักงานก็แจ้งข้อกล่าวหา และหากมีบุคคลใดที่อาจจะต้องสอบปากคำเพิ่มเติมก็จะเชิญเข้าพบพนักงานสอบสวนอีกครั้ง

Let's block ads! (Why?)



"หลังจาก" - Google News
July 03, 2020 at 12:43PM
https://ift.tt/3dWWNeG

ตร.เตรียมแจ้งข้อหาพยานให้การเท็จ คดีชิงตัว "บรรยิน" - ข่าวไทยพีบีเอส
"หลังจาก" - Google News
https://ift.tt/3esKVCL

No comments:

Post a Comment